ในปัจจุบันหลาย ๆ ท่านเริ่มมีรถยนต์ส่วนตัวกันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถขับรถยนต์ได้อย่างสะดวก ทั้งนี้เมื่อคุณซื้อรถยนต์มาแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด คือ การซื้อประกันรถยนต์นั่นเอง แต่การซื้อประกันรถยนต์หลาย ๆ ท่านมองว่าซื้อประกันชั้น 1 ไปเลยดีกว่า เพราะสามารถครอบคลุมได้ครบถ้วน แต่ด้วยราคาแพงมหาโหดส่งผลให้หลาย ๆ ท่านอาจจะซื้อไม่ไหว ดังนั้นตัวเลือกอีกหนึ่งทางที่ดีไม่แพ้กัน คือ ประกันภัย 2+ นั่นเอง แต่หลาย ๆ ท่านก็ยังเป็นกังวลว่าประกันชั้น 2+ จะดีหรือไม่ มีความครอบคลุมอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นไปดูรายละเอียดเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยประกอบการตัดสินใจกันเลย
ทำความรู้จักกับประกันภัย 2+ มีความครอบคลุมอย่างไรบ้าง?
สำหรับประกันภัย 2+ จะมีความครอบคลุมที่ไม่แตกต่างจากประกันชั้น 1 เท่าไหร่นัก เพราะสามารถครอบคลุมได้เกือบทุกกรณีเลยทีเดียว หรือเรียกได้ว่าใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 เลยก็ว่าได้ แต่จะมีความแตกต่างกันเพียงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่รถของคุณชนกับรถคู่กรณีเท่านั้น แต่สำหรับการชนรั้วบ้าน กำแพง หรือต้นไม้จะไม่อยู่ในประกันนั่นเอง ทั้งนี้จุดเด่นของประกันชั้น 2+ จะมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่าชั้น 1 เป็นอย่างมาก ดังนั้นหากใครที่สนใจทำประกันชั้น 2+ ไปดูรายละเอียดของการคุ้มครองคร่าว ๆ กันเลยว่า มีการคุ้มครองอย่างไรบ้าง
- คุ้มครองความเสียหายของรถคู่กรณี รวมไปถึงทรัพย์สินของคู่กรณีด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ จะครอบคลุมให้อีกด้วย
- คุ้มครองรถยนต์ของผู้ทำประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุของรถชนกับรถ
- คุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลผู้ทำประกันรถ (ตัวเราเอง) และผู้โดยสารที่นั่งรถมากับเราด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะให้ความคุ้มครองที่มีความคล้ายคลึงกับประกันชั้น 1
- คุ้มครองในกรณีของรถสูญหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วม
- ให้ความคุ้มครองในส่วนอื่น ๆ ซึ่งในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ของประกันนั้น ๆ
และนอกจากนี้การทำประกันชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองค่าเสียหายรถของเราในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น หากในกรณีที่นอกเหนือจากนี้จะไม่อยู่ในการคุ้มครองของกรมธรรม์ นั่นจะหมายความว่าส่วนเกินเหล่านี้คุณจะต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเองทั้งหมด อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องอายุรถยนต์และสภาพรถยนต์ของคุณด้วยเช่นกัน
สำหรับการทำประกันภัย 2+ ถือเป็นอีกหนึ่งกรมธรรม์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะจะมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าประกันชั้น 1 เยอะเลยทีเดียว แต่ในเรื่องของการคุ้มครองจะให้ความคุ้มครองได้ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก ยิ่งในกรณีของรถเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี แต่ในด้านของการเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีจะไม่อยู่ในประกันนั่นเอง ดังนั้นประกันประเภทนี้จะเหมาะสำหรับการใช้รถในเส้นทางเดิมซ้ำ ๆ และการขับขี่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่
